Monday, January 30, 2017

タスク1.2 :魅力的な自己紹介! -ข้อดีและข้อเสียของตัวเอง-

    สวัสดีค่ะ! คราวนี้ก็ยังเป็นหัวข้อการแนะนำตัวเหมือนเอ็นทรี่ที่แล้วค่ะ แต่คราวนี้จะไม่ใช้การแนะนำชื่อ หรืองานอดิเรกแล้ว แต่จะเป็นการแนะนำข้อดีข้อเสียของเราค่ะ ถ้านึกภาพไม่ออกให้ลองนึกถึงพวกจดหมายสมัครงานค่ะ 555

     ปรกติแล้วพอเป็นจดหมายสมัครงานทุกคนก็ต้องพยายามเขียนให้ตัวเองดูดี 555 เพราะงั้นจากตัวอย่างที่อาจารย์ให้อ่าน จะมีการใช้วิธีหลายๆแบบให้ข้อเสียดูไม่แย่มาก เช่น บางคนพูดข้อเสียให้กลายเป็นข้อดี บางคนบอกข้อดีของตัวเองแล้วเพิ่มต่อว่า ข้อดีแบบนี้อาจจะทำให้มีด้านไม่ดีตามมา แต่เขาไม่เป็นอย่างนั้น หรือบางคนก็บอกข้อเสียของตัวเองแล้วบอกต่อว่าเขาพยายามทำอะไรเพื่อจะทดแทนข้อเสียนั้น ค่ะ




     ส่วนการบ้านของเราในคราวนี้ก็คือ เขียนแนะนำตัวแบบข้างบนค่ะ โดยมีสิ่งที่ต้องเขียนสามอย่างคือ 1.ข้อดี 2.ข้อเสีย 3.ประสบการณ์ของเรา ค่ะ






ก่อนอื่นก็มาดูว่าเรามีข้อดีข้อเสียอะไรบ้าง

1. ข้อดี....โห แทบไม่มี.....อะไรที่พอจะนับเป็นข้อดีได้ก็มีเรื่องทำงานเร็ว...(คุณภาพงานเป็นยังไงนี่อีกเรื่อง...555)

2.ข้อเสีย อันนี้เยอะ 555 อย่างแรกเลยคือเป็นคนทำงานไม่ละเอียด 555 กับอีกข้อคือเป็นคนขี้เกียจค่ะ 555 พอมาเลือกดูระหว่างสองอันนี้แล้ว รู้สึกว่าความเป็นคนขี้เกียจน่าจะเอาข้อดีที่เป็นคนทำงานเร็วของเรามาช่วยทำให้ดูไม่แย่มากได้ เราเลยเลือกข้อนี้มาเขียนค่ะ

3.ประสบการณ์....เอาจริงๆแล้วเราก็ไม่ค่อยรู้สึกว่าการทำงานเร็วหรือการเป็นคนขี้เกียจเคยทำให้เราเจอเรื่องดีๆเท่าไหร่เลยค่ะ ฮือ....555 เพราะคิดประสบการณ์อะไรที่เป็นอีเวนท์ใหญ่ๆไม่ออก เราเลยคิดว่าจะเขียนเรื่องในชีวิตประจำวันแทนค่ะ พอมาคิดๆดู ความขี้เกียจที่เราพบเจออยู่ทุกวันตอนนี้ก็คือ ขี้เกียจล้างจานค่ะ......เราขี้เกียจล้างจานมาก ตอนทำอาหารเลยพยายามใช้จานให้น้อยที่สุด (ตอนนี้แทบจะกินจากกระทะอยู่แล้วค่ะ...555) สุดท้าย เพราะนึกอะไรไม่ออกแล้วเราเลยเอาเรื่องนี้มาใช้ค่ะ 555






พอหาทั้งสามข้อใด้แล้วเราก็ลองเขียนดูค่ะ

 私は、正直に言って、面倒くさがり屋です。無駄にエネルギーを使うことはとても嫌いです。例えば、料理を作るときはお皿を洗うのが面倒くさく、一番お皿を少なく使う方法を考えます。しかし、この面倒くさがり屋の性格から、時間を無駄に使わずに、効率よく、他の人より仕事を早く終わらせます。

     ตอนแรกเขียนออกมาได้ประมาณนี้ค่ะ พอเขียนเสร็จแล้วเราก็เอาไปลงในเว็บ lang-8.com ค่ะ เว็บนี้เป็นเว็บสำหรับคนเรียนภาษาต่างชาติ เวลาเราอยากให้ที่คนเช็คภาษาให้ก็เอาที่เราเขียนไปลง แล้วจะมีคนมาแก้ให้ค่ะ แล้วเราก็ไปแก้ให้คนที่เรียนภาษาแม่ของเราอยู่ได้ด้วยค่ะ 






พอเอาไปลงก็มีคนมาแก้ให้ประมาณนี้ค่ะ


無駄にエネルギーを使うこととても嫌いです。

     อันนี้มีทั้งคนที่แก้ให้เป็น が กับคนที่บอกว่า は ก็ไม่เป็นไรค่ะ เราเข้าใจว่า ตามแกรมม่าที่ถูกต้องคือ ~が嫌い แต่ในกรณีที่เน้นเป็นพิเศษจะใช้ は ได้? ไม่แน่ใจเหมือนกันค่ะ 555 แต่เพื่อความชัวร์เราจะแก้เป็น が ละกันค่ะ 555


例えば、料理を作るときはお皿を洗うのが(面倒くさく/面倒くさいので)、一番お皿を少なく使う方法(一番お皿が少なく済む方法/お皿が一番少なく済む方法/使うお皿をなるべく減らす方法)を考えます。

     อันนี้มีคนแก้มาให้หลายแบบเลยค่ะ 555 ที่แรกมีสองคนบอกว่า 面倒くさく ถูกแล้ว แต่มีหนึ่งคนแก้ให้เป็น 面倒くさいので แทนค่ะ เรารู้สึกว่า 面倒くさく มันกระชับกว่า แล้วก็เข้าใจว่าการเชื่อมประโยคแบบนี้มันมีความหมายของความเป็นเหตุเป็นผลกันอยู่แล้ว (เราเข้าใจถูรึเปล่า....?) เลยรู้สึกว่า ใช้面倒くさく เหมือนเดิมก็น่าจะได้ค่ะ (ถ้าเราเข้าใจผิดช่วยบอกเราที...;w;) เราเข้าใจว่า 
     
     ส่วนตรง お皿を少なく使う มีสองคนแก้ให้เป็น お皿が少なく済む แทน ส่วนอีกคนแก้เป็น 使うお皿をなるべく減らす ค่ะ สารภาพว่าตอนเขียนเรานึกไม่ถึงคำว่า 少なく済むเลยค่ะ ฮือ พอมีคนมาแก้ให้ก็แบบ เออ ทำไมเราไม่ใช้แบบนี้้ 55555 ส่วน なるべく減らす เราแอบรู้สึกว่า 減らす มันจะต้องใช้ในสถานการณ์ที่เริ่มจากมีเยอะๆ แล้วค่อยลดจำนวนมันลง แต่ในกรณีของเราคือเราพยายามจะใช้น้อยตั้งแต่แรกอยู่แล้ว เลยรู้สึกว่าคำว่า 減らす ยังไม่ค่อยเหมาะรึเปล่า(?) แต่พอคิดอีกที เขาอาจจะหมายถึงลดจำนวนจากที่คนปรกติใช้รึเปล่า(?) คิดไปคิดมาก็งๆๆ เลยคิดว่าแก้เป็น  お皿が少なく済む ดีกว่าค่ะ 555

     กับอีกที่ที่มีคนแก้ให้คือตำแหล่งของคำว่า 一番 ค่ะ มีคนที่บอกว่าตำแหน่งเดิมถูกแล้ว กับคนที่บอกว่าให้เอาไว้ข้างหน้า 少なく済む แทนค่ะ พอมาคิดดูแล้ว คำขยายควรจะเอาไว้ใกล้กับคำที่มันขยายอยู่ที่สุดเพื่อป้องกันความสับสน เราเลยจะแก้มาไว้ตรงข้างหน้า 少なく済む แทนค่ะ 


しかし、この面倒くさがり屋の性格からの為/のおかげで/によって)、(時間を無駄に使わずに/短時間で)、効率よく、他の人より仕事を早く終わらせることができます。

     อันนี้ก็แก้กันมาหลายแบบเหมือนกันค่ะ 555 จุดแรก ตอนแรกเราใช้ この面倒くさがり屋の性格から แต่มีคนมาแก้ให้ เป็น の為/のおかげで/によって แทนค่ะ สำหรับเราแล้ว の為 ดูเป็นคำที่เป็นทางการที่สุด รองลงมาก็ によって เป็นทางการน้อยที่สุดคือ のおかげで ค่ะ (ไม่รู้ถูกมั้ยนะ นี่แค่ตามความรู้สึกเฉยๆ 555) แต่พอใช้ おかげで แล้ว เราว่ามันดูเป็นการช่วยเพิ่มความรู้สึกที่ว่า นิสัย 面倒くさがり屋 ของเรามันไม่ใช่เรื่องแย่ เราเลยคิดว่าเราจะใช้ のおかげで ค่ะ

     กับอีกที่คือ 時間を無駄に使わずに มีคนแก้ให้เป็น 短時間で ค่ะ จริงๆเราแอบรู้สึกว่ามันความหมายไม่ค่อยเหมือนกันเท่าไหร่ 無駄に使わずに มันดูเน้นที่ไม่ใช้เวลาเปล่าประโยชน์ แต่ 短時間で มันดูเน้นที่สปีดมากกว่าค่ะ แต่คราวนี้ข้อดีที่เราอยากจะบอกคือทำงานเร็ว ใช้เวลาน้อย เพราะงั้นเราเลยคิดว่าเปลี่ยนมาใช้ 短時間で ก็อาจจะช่วยเน้นจุดขายของเราได้ค่ะ 555

     ที่สุดท้าย 仕事を早く終わらせます ทุกคนแก้ให้เป็น 終わらせることができます ค่ะ 555 ฮือ มันคือความเบลอของเราเอง ตอนแรกพิมพ์ 早く終わらせます ไป แล้วก็รู้สึกว่า เอ้อ เป็นรูปสามารถและ แต่จริงๆมันคือความหมายของ 自動詞+使役 ต่างหาก 5555 ก็เลยต้องเอาไปบวกกับ~ことができます อีกทีเพื่อให้มันเป็นรูปสามารถค่ะ 5555






สรุปที่แก้แล้วก็จะออกมาป็นแบบนี้ค่ะ

 私は、正直に言って、面倒くさがり屋です。無駄にエネルギーを使うことがとても嫌いです。例えば、料理を作るときはお皿を洗うのが面倒くさく、お皿が一番少なく済む方法を考えます。しかし、この面倒くさがり屋の性格のおかげで、短時間で、効率よく、他の人より仕事を早く終わらせることができます。

     ฮือ พอมีคนคอยเช็คให้แล้วรู้สึกดีมากค่ะ 555 ซาบซึ้งถึงความดีงามของเว็บนี้มากๆ 555 ไว้จะเข้าไปใช้งานบ่อยๆนะคะ 55






สรุปการแนะนำตัว

     ทำมาถึงตรงนี้แล้ว 魅力的な自己紹介 มันคืออะไรกันแน่? สำหรับเรา ถ้าให้พูดง่ายๆก็คือ การแนะนำตัวที่น่าสนใจค่ะ 555 แล้วการแนะนำตัวที่น่าสนใจจะต้องมีอะไรบ้าง? สำหรับเราแล้ว สิ่งที่เราคิดว่าต้องมีคือ 1. บอกความเป็นตัวเราได้ 2. ทำให้คนอื่นมาสนใจและจำเราได้ ค่ะ


1.บอกความเป็นตัวเราได้

     ส่วนตัวแล้ว เรารู้สึกว่าส่วนนี้เป็นส่วนที่ยากมาก (จริงๆก็ยากหมด 555) เพราะก่อนอื่นเราต้องรู้จักตัวเองดีพอ ว่าเราเป็นคนยังไง และต้องการให้คนอื่นมองว่าเราเป็นคนยังไง อย่างเช่น ในการแนะนำข้อดีข้อเสียครั้งนี้ เราต้องดูก่อนว่าอะไรคือข้อดีข้อเสียของเรา แล้วก็ดูว่าเราต้องการให้อีกฝ่ายมองเรายังไง ซึ่งในกรณีนี้ก็คือต้องการให้มองเราเป็นคนที่ดูจะรับผิดชอบงานได้ ดูแล้วน่าจ้าง 555 พอดูทั้งสองข้อนี้เสร็จก็ดูว่าเราจะทำยังไงให้สองจุดนี้มันไปด้วยกันได้ อย่างเช่น ข้อดีของเราคือทำงานเร็ว ข้อเสียคือขี้เกียจ แต่เราอยากให้อีกฝ่ายรู้สึกว่าเราทำงานได้ ถ้าเราเขียนอะไรที่ดูดีแต่ไม่เป็นจริงอย่าง เราขยันทำงาน บลาๆ จุดที่เป็นตัวเราก็จะหายไป แต่ถ้าเราเขียนว่า เราทำงานเร็วแต่ขี้เกียจค่ะ ก็จะไม่บรรลุจุดประสงค์ที่อยากจะดูเป็นคนดีในสายตาอีกฝ่าย 

     ส่วนในกรณีที่เป็นการแนะนำตัวกับเพื่อน การแสดงตัวเราออกมาก็จะทำให้มีคนที่เหมือนๆกันหรือคนที่น่าจะเข้ากันได้เข้ามาคุยกับเรา อย่างที่เราได้เขียนแนะนำตัวไปในคราวที่แล้วคือ เราชอบการ์ตูนเรื่องนี้ๆ ก็จะทำให้มีมีโอกาสที่คนที่ชอบการ์ตูนเรื่องเดียวกันเข้ามาคุยด้วยมากขึ้นค่ะ จากที่คุยกันในห้องเรียนก็มีหลายคนที่เห็นว่า การแนะนำความชอบของตัวเองควรจะแนะนำให้ชัดเจน เช่น ชอบการ์ตูนหรือนิยายก็บอกชื่อเรื่องไปเลย ซึ่งเราก็เห็นด้วยค่ะ เพราะเราคิดว่าจะทำให้เข้าไปคุยด้วยง่ายกว่าค่ะ

     อีกเรื่องที่เรารู้สึกตอนได้อ่านการเขียนแนะนำตัวของเพื่อนๆในห้องคือ การใช้ภาษาก็แสดงตัวตนของคนเขียนได้เหมือนกันค่ะ ในการแนะนำตัวที่เราได้อ่าน มีของคนนึงใช้ภาษาสวยๆเหมือนอยู่ในนิยาย แล้วเขาก็เขียนว่าชอบอ่านนิยายด้วย เลยทำให้เรารู้สึกว่าเขาคงเป็นคนชอบนิยายมากจริงๆค่ะ 55 หลังจากนั้นเลยได้รู้ว่า ภาษาก็เป็นอะไรที่ใช้บอกตัวตนได้เหมือนกันค่ะ 555


2.ทำให้คนอื่นมาสนใจและจำเราได้

     จริงๆเราเป็นคนที่ไม่ถนัดในการทำให้คนอื่นสนใจหรือจำได้เท่าไหร่ 555 แต่หลังจากดูการแนะนำตัวของหลายๆคนแล้วก็รู้สึกว่ามีอะไรที่เอามาใช้ได้หลายอย่างอยู่เหมือนกันค่ะ

     อย่างแรกคือการพูดเชื่อมโยงกับคนที่พูดไปก่อนหน้า ตอนที่อาจารย์เปิดการแนะนำตัวของคนญี่ปุ่นให้ดู จะเห็นได้ว่าการแนะนำตัวของเขาจะมีจุดที่เชื่อมกับคนข้างหน้าอยู่ เรารู้สึกว่ามันเป็นวิธีที่ดีที่จะทำให้คนสนใจ เพราะอย่างน้อยๆคนที่ถูกพูดอ้างถึงก็จะต้องสนใจเราแล้ว 555 แล้วยังทำให้จำง่ายเพราะมีจุดเชื่อมโยงด้วย อย่าง อ้อ คนนี้ชอบเรื่องนี้เหมือนคนข้างหน้า อะไรประมาณนี้ 555

     อย่างที่สองคือ การพูดชื่อตัวเองซ้ำๆค่ะ อันนี้เป็นวิธีที่อาจารย์คนญี่ปุ่นแนะนำในห้อง เขาบอกว่าเพราะชื่อคนไทยยาก เวลาแนะนำตัวกับคนญี่ปุ่นให้พูดชื่อตัวเองหลายๆรอบ ไม่ใช่แบบ ส้มส้มส้มส้ม นะ 555 แบบ ให้บอกที่มา หรือเล่นคำกับชื่อ จะได้มีโอกาสพูดชื่อหลายๆครั้งค่ะ 555 

     อีกอย่างคือ ให้พูดเรื่องเดียวแต่พูดเรื่องนั้นละเอียดๆค่ะ อันนี้ก็เป็นวิธีที่อาจารย์คนญี่ปุ่นแนะนำมาเหมือนกัน อย่างถ้าพูดเรื่องชอบการ์ตูนก็พูดการตูนไปเลยยาวๆ จะทำให้จำได้ว่า คนนี้ = การ์ตูน ประมาณนี้ค่ะ 555 แต่เราแอบรู้สึกว่า บางทีเราก็อยากบอกมากกว่าเรื่องเดียวเหมือนกัน แต่คิดว่าคงต้องดูว่าเป็นการแนะนำตัวกับใคร เพื่ออะไร และก็อยู่ในสถานการณ์แบบไหนด้วยค่ะ 555 ถ้าแนะนำตัวกันหลายๆคนอย่างในห้องเรียน พูดเรื่องเดียวคงจะจำง่ายกว่าจริงๆ เพราะคนเยอะมาก 555






     คิดว่าหัวข้อการแนะนำตัวก็คงจบในครั้งนี้แล้วค่ะ (ถ้าเราเข้าใจไม่ผิด...)  รู้สึกว่าครั้งนี้เขียนไปยาวมาก 555 ขอบคุณที่ทนอ่านจนถึงตรงนี้นะคะ คราวหน้าก็คงเป็นเรื่องอื่นแล้ว ไว้เจอกันใหม่นะคะ! 





Saturday, January 14, 2017

タスク1.1 :魅力的な自己紹介!-มาแนะนำตัวให้คนไม่ลืมกันเถอะ!-

     สวัสดีค่ะทุกคน! นี่ก็เป็นเอ็นทรี่แรกของเราเลย เพราะฉะนั้นก่อนอื่นก็ขอพูดถึงว่าบล็อกนี้ทำมาเพื่ออะไร แล้วก็เราจะทำอะไรในบล็อคนี้บ้างก่อนละกันเนอะ


บล็อคนี่ทำมาเพื่ออะไร??

     บล็อคนี้่เราสร้างมาเพื่อใช้ทำการบ้านในวิชา 応用言語学 หรือวิชา ภาษาศาสตร์ประยุกต์ นั่นเองค่ะ เนื่องจากในวิชานี้ อาจารย์จะให้เราทำการบ้านโดยการเขียนบล็อคเพื่อวิเคราะห์กิจกรรมที่เราได้ทำไปในห้องและบททวนว่าเราทำผิดตรงไหน หรือมีตรงไหนที่เราจะแก้ไขให้ดีขึ้นได้บ้าง จึงเกิดเป็นบล็อคนี้ขึ้นมาค่ะ


เราจะทำอะไรในบล็อคนี้บ้าง??

     อย่างที่บอกไปด้านบนว่า บล็อคนี้สร้างมาเพื่อทำการบ้าน สิ่งที่เราจะทำในบล็อคนี้ก็คือ การเขียนวิเคราะห์กิจกรรมที่เราได้ทำไปในคาบเรียนซึ่งเป็นการบ้านของเราค่ะ 555 โดยเราจะเอาผลที่เราทำไปในห้องมาดูว่าจะปรับแก้ตรงไหนได้บ้าง อย่างเช่นคราวนี้จะเป็นเรื่องของการแนะนำตัวค่ะ

เกริ่นมาขนาดนี้แล้ว ไปดูกันเลยดีกว่าค่ะ!





タスク1.1 : 魅力的な自己紹介!-มาแนะนำตัวให้คนไม่ลืมกันเถอะ!-


     หัวข้อของเราคราวนี้ก็คือ 魅力的な自己紹介 หรือ การแนะนำตัวให้น่าสนใจนั่นเองค่ะ ตอนที่เจอหัวข้อนี่แทบยากจะล้มตัวลงตายเดี๋ยวนั้น.... แนะนำตัวยังพอทำได้นะ แต่แนะนำตัวให้น่าสนใจนี่สิ....


และนี่ก็คือที่เราแนะนำตัวไปในห้องค่ะ

 はじめまして。ソムです。オノマトペについて研究しています。ストレス解消に漫画を読んだり歌ったりしています。よろしくお願いします。

     โอเคค่ะ...เรารู้ตัวว่ามันสั้นแล้วก็ไม่มีอะไรเอามากๆ....55555 ในการแนะนำตัว หัวข้อที่อาจารย์กำหนดให้พูดคือ 1.คำทักทาย (あいさつ) 2. ชื่อ (名前) 3. กำลังวิจัยเรื่องอะไรอยู่ (専門領域) 4. เวลาเครียดๆจะทำอะไรคลายเครียด (ストレス解消法) ค่ะ อืม...เขาบังคับแค่ไหนเราก็พูดแค่นั้นจริงๆ...555
     หลังจากนั้นอาจารย์ก็เปิดการแนะนำตัวของคนญี่ปุ่นให้ดู แล้วเราก็คุยกันในห้องจนได้ข้อสรุปออกมาหลายอย่างค่ะ ที่เราจำได้อยู่ก็มีประมาณนี้ค่ะ

1. ในการแนะนำตัวของคนญี่ปุ่นที่ได้ดูไป แต่ละคนจะพูดอธิบายเกี่ยวกับเรื่่องที่ตัวเองวิจัยอยู่ เพื่อให้คนฟังเข้าใจได้ง่ายขึ้น
2. มีการเชื่อมโยงกันสิ่งที่คนอื่นๆพูดไปก่อนหน้า
3. จากการเอาการแนะนำตัวของคนไทยที่เรียนวิชานี้ในปีก่อนๆจะเห็นว่าคำที่คนญี่ปุ่นไม่ใช้ แต่คนไทยจะใช้กันเยอะคือ 私 และ 今 นอกจากนั้นแล้วยังมีคนไทยที่จบการแนะนำตัวด้วย ありがとうございます ด้วย ซึ่งไม่มีคนญี่ปุ่นคนไหนใช้   

     บางข้อเราก็รู้สึกว่าเราทำถูกต้องอยู่แล้ว เช่น การจบด้วย よろしくお願いします แทนที่จะเป็น ありがとうがさいます。แต่ก็มีหลายข้อที่รู้สึกว่าเราจะเอามาปรับปรุงการแนะนำตัวของตัวเองได้ค่ะ


ที่นี้ก็มาดูส่วนที่เรามาแก้ที่หลังกันดีกว่าค่ะ !


1.พูดเกี่ยวกับหัวข้อการวิจัยให้น่าสนใจ

     อย่างแรกที่เราคิดว่าควรจะปรับปรุงคือ ควรจะอธิบายสิ่งที่ตัวเองวิจัยอยู่ให้ละเอียดขึ้นอีกหน่อยค่ะ เราคิดว่านอกจากจะอธิบายว่าหัวข้อที่เราวิจัยคืออะไรแล้ว การอธิบายว่าทำไมเราถึงวิจัยเรื่องนี้ก็น่าจะทำให้มันฟังดูน่าสนใจและเป็นที่จดจำมากขึ้น (รึเปล่า? 555) เราเลยลองใส่เพิ่มไปด้วยค่ะ หลังจากแก้แล้วจะออกมาเป็นประมาณนี้ค่ะ

 日本の漫画がとても好きなので、大阪大学にいたときは、バンとかキラとかの漫画の中のオノマトペを研究していました。色んなジャンルの漫画に使われているオノマトペを集めて分析ていました。最近はまっている漫画はハイキューというバレーボールの漫画です。それも研究の素材として使っていました。

     เราพยายามใส่ความชอบการ์ตูน ซึ่งเป็นสาเหตที่ทำให้เราเลือกศึกษาเรื่องนี้ลงไปด้วยค่ะ นอกจากจะทำให้รู้สึกว่าน่าสนใจขึ้นมาหน่อยนึงแล้ว ยังแอบมีความหวังว่าจะมีคนที่ชอบการ์ตูนเหมือนๆกันเข้ามาคุยด้วยมากขึ้นด้วยค่ะ 555

(ใครชอบไฮคิวเหมือนกันมาคุยกันได้นะคะ! )


2.แสดงความเป็นตัวเองให้มากขึ้น

     อันนี้เป็นสิ่งที่ไม่ได้มีการพูดถึงในห้องเท่าไหร่ (หรือมีแล้วเราไม่ได้ฟังเองก็ไม่รู้ 555) แต่อาจารย์เน้นมากว่าให้แนะนำตัวให้คนไม่ลืม หลังจากเรามีคิดๆดูว่าจะทำยังไงให้คนไม่ลืมเราก็ได้ข้อสรุปออกมาแบบนี้ค่ะ ตอนแรกเราคิดว่าการแนะนำตัวให้คนจำได้จะต้องพูดอะไรตลกๆให้คนขำ ซึ่งเราทำไม่ได้.... แต่พอมาลองนั่นคิดดู เราก็ตัดสินใจจะใส่ความเป็นตัวเองลงไปแทนค่ะ และนี่ก็คือส่วนที่เราใส่ความเป็นตัวเองลงไปค่ะ

 ストレス解消は家でゴロゴロして、漫画を読んだり、歌ったりすることです。日本に留学していた頃はよく一人でカラオケに行っていました。ちょっとコミュニケーションが苦手なところがあるので、疲れるときは一人になるのが好きです。他の人と遊びに行くなら、とても仲がいい友達じゃないと逆に疲れます。こんなコミュ障気味な私なんですがよろしくお願いします。

     ก็คิดว่าน่าจะมีอิมแพ็คในระดับนึง...(รึเปล่า?) คงไม่มีใครที่ไหนบอกว่าตัวเองเป็น コミュ障気味 ตั้งแต่ตอนแนะนำตัวแล้วมั้ง...? 555 คืออาจจะไม่ถูกลืม แต่อาจจะไม่มีคนเข้าใกล้แทน ฮือ 555
     ในส่วนนี้เรามีการแก้ภาษาด้วยนิดหน่อย คือ ตรง ストレス解消は...ことです。 ตอนแรกเราใช้เป็น ストレス解消に...しています。เพราะว่าในห้องเรียนมีการพูดถึงว่าคนญี่ปุ่นจะให้รูปประโยคแบบที่ใช้ は ยกหัวข้อเรื่องขึ้นมากันเยอะ เราเลยลองเปลี่ยนมาใช้แบบนี้ดูบ้างค่ะ

     อีกข้อนึงที่เราอยากจะแก้ไขคือ การพูดให้เชื่อมโยงกับที่คนข้างหน้าพูดค่ะ แต่พอเอามาแก้ทีหลังเราก็ไม่ได้อยู่ในสถานการณ์ที่จะพูดต่อกับใครแล้ว คงต้องไปแก้เอาในโอกาสหน้าค่ะ...555

     อืม...ดูรวมๆแล้วก็น่าสนใจขึ้นมานิดหน่อย (มั้ง 555) เอาจริงๆเราไม่ค่อยชอบการแนะนำตัว เพราะเรารู้สึกว่าตัวเองเป็นคนที่ไม่น่าสนใจเท่าไหร่ 555 ตอนแรกที่บอกว่าให้แนะนำตัวให้คนไม่ลืมเราก็ยังแอบคิดในใจว่า ลืมๆเราไปเถอะ....55555 แต่พอรู้สึกว่า เราสามารถใช้จุดด้อยของเรามาทำเป็นจุดที่ทำให้เราต่างจากคนอื่นได้ก็โอเคกับการแนะนำตัวขึ้นมาบ้าง(?) 55 ใครที่รู้สึกว่าไม่ชอบการแนะนำตัวด้วยสาเหตุเดียวกับเราก็ลองเอาวิธีนี้ไปใช้ดูนะคะ! (แต่ไม่รับประกันผลนะ...555)

ขอบคุณที่อ่านมาถึงตรงนี้นะคะ แล้วเจอกันใหม่ค่ะ!